บ้านดุสิต กรุงเทพฯ, 4 ตุลาคม 2567
บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (A Climate Tech Company) ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ในการนำอาร์กอนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีไปใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
ก้าวสำคัญสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัทในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยบีไอจีซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องก๊าซอุตสาหกรรมและเล็งเห็นถึงศักยภาพของอาร์กอนคาร์บอนต่ำในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่อาปิโก ไฮเทค มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การร่วมมือกันครั้งนี้จึงเป็นการผสานความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยการนำนวัตกรรมก๊าซอาร์กอนคาร์บอนต่ำมาใช้ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดโลกที่เข้มงวดและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บีไอจี พร้อมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า “บีไอจีในฐานะผู้ริเริ่มสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) เดินหน้าผลักดันนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Climate Technology ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ Generating a Cleaner Future ซึ่งความร่วมมือกับอาปิโก ไฮเทค นี้เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยที่ใช้ก๊าซอาร์กอนคาร์บอนต่ำในกระบวนการผลิต โดยอาร์กอนคาร์บอนต่ำที่บีไอจีส่งมอบ ผ่านการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับอาร์กอนในกระบวนการผลิตทั่วไป โดยการใช้อาร์กอนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีนั้นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 3 (Scope 3) ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ของอาปิโก ไฮเทค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกที่เกี่ยวเนื่องกับมาตรการภาษีคาร์บอนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ
อาปิโก ไฮเทค มุ่งสู่การผลิตที่ยั่งยืน
คุณเย็บ ซิน หรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “อาปิโก ไฮเทค มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ยั่งยืน การร่วมมือกับบีไอจีในครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจของอาปิโก ไฮเทค ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำอาร์กอนคาร์บอนต่ำจากบีไอจีมาใช้นั้นจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยอาปิโก ไฮเทคมีแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”
********************************
เกี่ยวกับบีไอจี
บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology Company) เป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักส์ (Air Products and Chemicals, Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทใน New York Stock Exchange (NYSE) และ US Fortune 500 โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) อย่างต่อเนื่องตลอด 13 ปี ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์ก๊าซอุตสาหกรรม นวัตกรรม เทคโนโลยีการใช้ก๊าซสำหรับทุกอุตสาหกรรม และเป็นผู้ลงทุนโครงการกรีนไฮโดรเจน กรีนแอมโมเนียรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงาน ด้วยเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bigth.com หรือ www.airproducts.com
********************************
เกี่ยวกับบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)
บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก มีความมุ่งมั่นเรื่องความมีประสิทธิภาพ คล่องตัว รักษ์สิ่งแวดล้อม และมุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2545 บริษัทฯ มีธุรกิจหลัก 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และกลุ่มธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการ และธุรกิจด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ และ IoT ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทอาปิโกฯ ประกอบด้วยบริษัทย่อยและบริษัทร่วมรวมทั้งสิ้น 47 บริษัท (33 บริษัทในประเทศไทยและ 14 บริษัทในต่างประเทศ)
โรงงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในปัจจุบันมีโรงงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง อีกทั้งมีการขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศโปรตุเกส สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.aapico.com
Share: