กรุงเทพฯ – 30 มิถุนายน 2566
เมอแรนติ กรีน สตีล ไพรเวท ลิมิเต็ด ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของประเทศสิงคโปร์ เดินหน้าโครงการโรงผลิต Green Steel แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทย โดยร่วมมือกับ บีไอจี ผู้นำทางด้าน Climate Technology ในการใช้ไนโตรเจนและออกซิเจนคาร์บอนต่ำ รวมถึงการร่วมมือสู่การผลิตและใช้ Green Hydrogen ในอนาคต
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี และ ดร. เซบาสเตียน แลงเกนดอร์ฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมอแรนติ กรีน สตีล ไพรเวท ลิมิเต็ท โดยความร่วมมือระหว่าง บีไอจี และ เมอแรนติ กรีน สตีล จะช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการลดการปลดปล่อยมลพิษในอุตสาหกรรมการผลิต
โรงผลิต Green Steel แห่งใหม่ของ เมอแรนติ กรีน สตีล มีกำหนดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและยั่งยืน รวมถึงตอกย้ำแนวคิดด้านนวัตกรรมพลังงาน โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งเป้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 3 ล้านตันต่อปีเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตเหล็กแบบดั้งเดิม
คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวว่า “บีไอจี เป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนในประเทศไทย โดยลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Climate Technology รวมถึงการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ การร่วมมือกับ เมอแรนติ กรีน สตีล ในโครงการ Green Steel นี้ บีไอจีได้ดำเนินธุรกิจตามที่ประกาศไว้ในเรื่องความยั่งยืน โดยความร่วมมือนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตเหล็กเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยของบีไอจี เช่น ออกซิเจนคาร์บอนต่ำ ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ และ Green Hydrogen บีไอจีในฐานะผู้ริเริ่มในการสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เมอแรนติ สตีล ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในสร้างโครงการที่ยั่งยืนอีกหนึ่งโครงการในประเทศไทย”
ดร. เซบาสเตียน แลงเกนดอร์ฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมอแรนติ กรีน สตีล ไพรเวท ลิมิเต็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า “บีไอจี เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมซึ่งมีจุดแข็งด้านก๊าซอุตสาหกรรมและนวัตกรรม เมอแรนติ กรีน สตีล จึงเล็งเห็นว่าการร่วมมือกับบีไอจีนั้น จะเป็นการต่อยอดเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับพันธมิตรที่ประกาศไปก่อนหน้านี้กับ GPSC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการใช้พลังงานทดแทน ในขณะที่ GPSC และ เมอแรนติ กำลังร่วมมือกันทางด้านการวิจัยและพัฒนาวิธีการใช้พลังงานทดแทนสำหรับการผลิต Green Steel และการใช้ Green Hydrogen ในอนาคต บีไอจีและแอร์โปรดักส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีก๊าซอุตสาหกรรมและเป็นผู้ผลิตก๊าซไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในโลกรวมถึงประเทศไทย จะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการกระบวนการผลิตและการใช้ Green Hydrogen ในโครงการนี้ เมอแรนติ สตีล จึงมีความยินดีที่จะร่วมงานกับบีไอจีในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป”
โครงการ Green Steel ของ เมอแรนติ กรีน สตีล นั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์และไทย ที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ซึ่งในปัจจุบันมีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกถึง 7%
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.bigth.com หรือ www.airproducts.com และ www.merantisteel.com
**********************************
เกี่ยวกับบีไอจี
บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Technology Company) เป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักส์ (Air Products and Chemicals, Inc., APD) ซึ่งเป็นบริษัทใน New York Stock Exchange (NYSE) และ US Fortune 500 โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) อย่างต่อเนื่องตลอด 13 ปี ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์ก๊าซอุตสาหกรรม นวัตกรรม เทคโนโลยีการใช้ก๊าซสำหรับทุกอุตสาหกรรม และเป็นผู้ลงทุนโครงการกรีนไฮโดรเจน กรีนแอมโมเนียรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงาน ด้วยเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050
เกี่ยวกับ Meranti Green Steel Pte. Ltd.
Meranti Green Steel มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงเป็นพันธมิตรร่วมกันกับ JFE Meranti ในประเทศเมียนมาร์ มีความมุ่งมั่นเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ Meranti Green Steel เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (decarbonization) Meranti Green Steel Pte. Ltd. เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของบริษัท และมุ่งเน้นที่จะจัดทำผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีคุณภาพสูง รวมถึงมีการขนส่งและบริการที่เป็นเลิศในอุตสาหกรรม Meranti Steel ให้ความสำคัญสูงสุดในด้านความปลอดภัย ทั้งสำหรับพนักงานและชุมชนที่บริษัทกำลังดำเนินกิจกรรมอยู่
Share: