“หากมีก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนไดออกไซด์น้อย โอกาสที่จะหยุดภาวะโลกร้อนก็จะเพิ่มขึ้น”
Net Zero หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยการสร้างสมดุลให้กับสภาพภูมิอากาศของโลก ด้วยวิธีการ “จำกัด” และ “กำจัด” การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศด้วยวิธีการปลูกต้นไม้ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือใช้เทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS) โดยส่วนมากจะมีการใช้ระบบนี้ในโรงงานขนาดใหญ่หรือโรงไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปล่อยคาร์บอนออกมามากเกินไป รวมถึงการนำสิ่งที่สามารถกักเก็บได้มาใช้งานในภายหลัง เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการลดการปล่อยคาร์บอน เพราะหากยิ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเท่าไหร่ เรายิ่งต้องรีบกำจัดออกจากชั้นบรรยากาศให้มากเท่านั้น
หากต้องการบรรลุเป้าของ Net Zero ได้อย่างแท้จริง ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ให้ลด ละ เลิก การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้มากที่สุด เช่น ถ่านหิน น้ำมัน เป็นต้น เพราะการใช้พลังงานเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดสภาพวะโลกร้อนทั้งสิ้น และหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ซึ่งแอร์โปรดักส์ บริษัทแม่ของบีไอจีในสหรัฐอเมริกา ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตก๊าซอุตสาหกรรม มีโครงการ Third by ’30 โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยคาร์บอนของโรงงานทั่วโลก 1 ใน 3 ภายในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) ผ่านการแปรสภาพเป็นก๊าซและการดักจับคาร์บอน ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดา ประกาศแผนก่อสร้างศูนย์ผลิตพลังงานไฮโดรเจน “Alberta” ที่ปลอดคาร์บอนแห่งใหม่มีมูลค่ามากกว่า $1,000 ล้าน USD ผลิตและแปรสภาพก๊าซไฮโดรเจนปลอดคาร์บอนให้กลายเป็นของเหลว โดยเริ่มดำเนินการผลิตในปี พ.ศ. 2567 นี้
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถดักจับก๊าซคาร์บอนจากวัตถุดิบตั้งต้นได้มากกว่าร้อยละ 95 และเก็บลงใต้ดินอย่างปลอดภัย สามารถช่วยลูกค้าภาคการกลั่นและภาคปิโตรเคมีที่ได้รับก๊าซไฮโดรเจนจากท่อส่งก๊าซแทนการขนส่งด้วยรถบรรทุก ซึ่งจะลดความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ในที่สุด
อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ “โครงการนีออม” (NEOM) เป็นโครงการไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ปลอดคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นโรงงานผลิตแอมโมเนียจากไฮโดรเจน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตทั้งหมด มีเป้าหมายคือผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมป้อนสู่ตลาดโลก โดยความร่วมมือระหว่างแอร์โปรดักส์ อัควาเพาเวอร์ (Acwa Power) และนีออม (Neom) จัดตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการเมืองใหม่นีออมในซาอุดิอาระเบีย
โรงงานแห่งนี้จะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลกในการนำพลังงานหมุนเวียนกว่า 4 กิกะวัตต์ ที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงานมาผลิตไฮโดรเจนปริมาณ 650 ตัน/วัน ด้วยกระบวนการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (Electrolysis) ใช้เทคโนโลยีการแยกอากาศของแอร์โปรดักส์และผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปริมาณ 1.2 ล้านตัน/ปี มีกำหนดเริ่มดำเนินการผลิตเร็ว ๆ ในปี พ.ศ.2568
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
- แอร์โปรดักส์ประกาศลงทุนโครงการคอมเพล็กซ์ผลิตพลังงานไฮโดรเจนปลอดคาร์บอนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในประเทศแคนาดา
- แอร์โปรดักส์ติดอันดับ 100 บริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในสหรัฐฯ
- แอร์โปรดักส์ อัควาเพาเวอร์ และนีออมลงนามข้อตกลงก่อสร้างโรงงานมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในเมืองใหม่นีออม เพื่อผลิตและส่งออกไฮโดรเจนสู่ตลาดโลกด้วยพลังงานหมุนเวียน
- แอร์โปรดักส์และธิสเซ่นครุปป์ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์สำหรับโรงงานแยกน้ำด้วยไฟฟ้าระดับโลกเพื่อผลิตไฮโดรเจน